การถ่ายภาพอินฟราเรดสามารถช่วยให้มองเห็นการรั่วไหลของก๊าซและการรั่วไหลขนาดเล็กภายใต้สภาพแวดล้อมและบริบททางอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เนื่องจากก๊าซหลายชนิดมีความเป็นพิษและ/หรือไวไฟ เช่น ก๊าซธรรมชาติ (CH₄) การตรวจจับก๊าซจากระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นประโยชน์ต่อความปลอดภัย ความจำเพาะที่เกิดจากการถ่ายภาพอินฟราเรดไฮเปอร์สเปกตรัมความละเอียดสูงช่วยให้สามารถระบุชนิดของสารเคมีในก๊าซได้ ลดความถี่ของการแจ้งเตือนผิดพลาดในเวลาเดียวกัน

การตรวจจับก๊าซมีเทน (Methane Detection)

ด้วยกล้อง Telops Hyper-Cam นักวิทยาศาสตร์สามารถตรวจจับและระบุการมีอยู่ของก๊าซมีเทนในพื้นที่ และระบุตำแหน่งของมันได้อย่างแม่นยำในภาพหรือวิดีโอ แบบพิกเซลต่อพิกเซล เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยลิงโคปิง (Linköping University) ประเทศสวีเดน สามารถ «ถ่ายทำ» การปล่อยก๊าซมีเทนแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าที่อาจมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ผลลัพธ์ของพวกเขาได้รับการตีพิมพ์ในวารสารชั้นนำ Nature Climate Change

กล้อง Telops Hyper-Cam ยังถูกนำมาใช้สำเร็จโดย บริษัท Total E&P ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อสาธิตการ สร้างภาพสามมิติของกลุ่มก๊าซมีเทนแบบเรียลไทม์ ในระหว่างการทดลอง กล้อง Hyper-Cam จำนวนสามตัวถูกติดตั้งรอบพื้นที่ที่สังเกตและเชื่อมต่อเครือข่ายกับคอมพิวเตอร์กลาง แต่ละกล้องผลิต ภาพไฮเปอร์สเปกตรัมที่ผ่านการสอบเทียบเชิงรังสีแบบเรียลไทม์ คอมพิวเตอร์จะรวมข้อมูลไฮเปอร์สเปกตรัมจากกล้องแต่ละตัวเพื่อ คำนวณและแสดงผลกลุ่มก๊าซ 3 มิติ รวมทั้งประมาณ อัตราการรั่วไหลของก๊าซ งานวิจัยของ Total ถูกนำเสนอใน งานประชุม SPE/ATCE ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 28 กันยายน 2016

การวิจัยภูเขาไฟ หรือ ภูเขาไฟวิทยา

พฤติกรรมที่คาดเดาไม่ได้ของภูเขาไฟทำให้การสำรวจด้วยการตรวจวัดระยะไกลแบบอินฟราเรดเป็นเครื่องมือวิจัยที่น่าสนใจทั้งเพื่อการเฝ้าระวังและวัตถุประสงค์ทางวิชาการ การถ่ายภาพอินฟราเรดไฮเปอร์สเปกตรัมแบบพาสซีฟช่วยให้สามารถ ตรวจจับและระบุชนิดของก๊าซหลายชนิด เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO₂) และซิลิคอนฟลูออไรด์ (SiF₄) ที่ออกมาจากปากปล่องและฟูมาโรลจากระยะไกล โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มเติม